วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ข้อมูลเบื้องต้นของทุกเส้นทางการสอบเป็นข้าราชการทหาร BY ADMIN อัศวินน้อย


ข้อมูลเบื้องต้นของทุกเส้นทางการสอบเป็นข้าราชการทหาร
BY ADMIN อัศวินน้อย

กองทัพไทย
จบ ม.3     
  ---> สอบเข้าโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ในส่วนของภาคปกติ(ถ้าสมัครภาคสมทบจะไม่ติดยศให้) โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 15-18 ปี จะรับเพศชายจำนวน 250 - 300 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช.ตามสาขาช่างที่เลือกศึกษา และแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี บรรจุทำงานในกองทัพไทยส่วนหนึ่ง คือ หน่วยทหารพัฒนา (ยังมีโควต้าของกองทัพบก และกองทัพเรืออีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะเลือกหลังจบการศึกษาตามคะแนนสอบ)                                     
---> สอบบรรจุชั้นประทวน ในตำแหน่ง พลขับรถ(เฉพาะชาย) เสมียน ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-30 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง การรับสมัครประมาณเดือน ก.พ. - มี.ค. ทุกๆปี  
จบ ม.6       
  ---> สอบเข้าโรงเรียนแผนที่ทหาร โดยกำหนดคุณสมบัติ คือ จบม.6 แผนวิทย์ - คณิต เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.20 มีอายุระหว่าง 17-20 ปี จะรับเพศชายจำนวน 40 - 45 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปี จะได้รับวุฒิปวส.สาขาช่างสำรวจ และแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี บรรจุทำงานในกองทัพไทยส่วนหนึ่ง คือ กรมแผนที่ทหาร และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ยังมีโควต้าของกองทัพอากาศ 1 นาย ซึ่งจะเลือกหลังจบการศึกษาตามคะแนนสอบ)                          
  ** น่ารู้ **   นักเรียนนายสิบแผนที่ ที่สอบได้ที่ 1 ได้คะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 3.00 ขึ้นไป และมีคะแนนความประพฤติดี จะได้โควต้าเข้าเรียนที่ร.ร.เตรียมทหาร และร.ร.นายร้อยจปร.                
  ---> สอบเข้าโรงเรียนชุมพลทหารเรือ โดยกำหนดคุณสมบัติ คือ จบม.6 แผนวิทย์ - คณิต มีอายุระหว่าง 17-20 ปี จะรับเพศชายจำนวน 3 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี บรรจุทำงานในกองทัพไทย               
  ---> สอบบรรจุชั้นประทวน ในตำแหน่ง พลขับรถ(เฉพาะชาย) เสมียน ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-30 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง การรับสมัครประมาณเดือน ก.พ. - มี.ค. ทุกๆปี    

จบ ปวช.
---> สอบเข้าโรงเรียนชุมพลทหารเรือ โดยกำหนดคุณสมบัติ คือ ปวช.สาขาช่างอิเล็กทรอนิกส์ มีอายุระหว่าง 17-20 ปี จะรับเพศชายจำนวน 3 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี บรรจุทำงานในกองทัพไทย             
  ---> สอบบรรจุชั้นประทวน (สิบตรี จ่าตรี จ่าอากาศตรี) ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-30 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง สำหรับสาขาที่รับสมัครเป็นประจำ คือ บัญชี การเงินการธนาคาร การตลาด การขาย พณิชยการและบริหารธุรกิจทุกสาขา คอมพิวเตอร์ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างยนต์ ช่างโยธา ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า การรับสมัครประมาณเดือน ก.พ. - มี.ค. ทุกๆปี  

จบปวส.               
  ---> สอบบรรจุชั้นประทวน (สิบตรี จ่าตรี จ่าอากาศตรี) ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-30 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง สำหรับสาขาที่รับสมัครเป็นประจำ คือ บัญชี การเงินการธนาคาร การตลาด การขาย พณิชยการและบริหารธุรกิจทุกสาขา คอมพิวเตอร์ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างยนต์ ช่างโยธา ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า การรับสมัครประมาณเดือน ก.พ. - มี.ค. ทุกๆปี  โดยกรมกำลังพลทหาร  

จบ ป.ตรี    
---> สอบบรรจุชั้นสัญญาบัตร (ร้อยตรี เรือตรี เรืออากาศตรี) ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-35 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง สำหรับสาขาที่รับสมัครเป็นประจำ คือ บัญชี การเงิน การธนาคาร วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ไฟฟ้า เครื่องกล อิเล็กทรอนิกส์ และวิทยาการคอมพิวเตอร์ การรับสมัครประมาณเดือน ก.พ. - มี.ค. ทุกๆปี โดยกรมกำลังพลทหาร

กองทัพบก
จบ ม.3    
  ---> สอบเข้าโรงเรียนดุริยางค์ทหารบก โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 15-18 ปี และต้องมีความสามารถทางดนตรีทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ (ส่วนใหญ่จะเป็นด้านวงโยธาวาทิต ดุริยางค์ และเครื่องสาย) จะรับเพศชายจำนวน 35 นาย และเพศหญิงจำนวน 5 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช.ดนตรี และแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี บรรจุทำงานตามกองดุริยางค์ทั่วประเทศ             
---> สอบเข้าโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ในส่วนของภาคปกติ โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 15-18 ปี จะรับเพศชายจำนวน 250 - 300 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช.ตามสาขาช่างที่เลือกศึกษา และแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี บรรจุทำงานในกองทัพบกส่วนหนึ่ง (ยังมีโควต้าของกองทัพไทย และกองทัพอากาศอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะเลือกหลังจบการศึกษาตามคะแนนสอบ)                  
---> สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เหล่าทหารบก (สมัครผ่านร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า) โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 14-17 ปี จะรับเพศชายจำนวน 220 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปีจากร.ร.เตรียมทหารแล้ว จะได้รับวุฒิม.6 สายวิทย์ - คณิต และเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้าโดยไม่ต้องสอบคัดเลือกอีก เมื่อเรียนจบ 4 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นร้อยตรี บรรจุทำงานในกองทัพบก โดยส่วนหนึ่งจะได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนการบินทหารบก เพื่อเป็นนักบินของกองทัพบก 
  ** น่ารู้ **  นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนดีจะได้รับทุนไปศึกษาที่ร.ร.นายร้อยต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อิตาลี สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เกาหลี อังกฤษ                              
---> เส้นทางนี้สำหรับผู้ชายเท่านั้น โดยขั้นตอนแรกจะต้องเรียนนศท.ปี 3 เป็นอย่างน้อย หรือหากไม่ได้เรียนก็ต้องเคยเป็นทหารกองประจำการมาก่อน(ทหารเกณฑ์) ซึ่งเรียกบุคคลเหล่านี้ว่า "ทหารกองหนุน" เมื่อปลดเป็นกองหนุนเรียบร้อยจะมีการรับสมัครของหน่วยทหารต่างๆโดยตรง ซึ่งก็มีทั้งหน่วยรบ(เฉพาะอดีตทหารเกณฑ์ในเหล่าราบ ช่าง ปืนใหญ่) และหน่วยสนับสนุน หน่วยสารบรรณ เช่น พลขับรถ เสมียน เมื่อสอบได้แล้วก็จะบรรจุแต่งตั้งยศสิบตรี               
---> เส้นทางนี้ก็สำหรับผู้ชายอีกเช่นกัน โดยการสมัครเข้าเป็นพลอาสาสมัคร(เป็นข้าราชการทหาร) ซึ่งหน่วยที่รับพลอาสาสมัครเป็นประจำนั้น ได้แก่ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์, กองพันจู่โจม, กรมทหารพรานที่ 11 44 และ47 เป็นต้น เมื่อเข้าเป็นพลอาสาสมัครแล้ว เส้นทางที่จะได้ติดยศ สิบตรี มี 2 เส้นทาง คือ                              1. สมัครสอบนักเรียนนายสิบทหารบก โดยจะต้องมีวุฒิม.6/ปวช./กศน. และมีอายุไม่เกิน 24 ปีในปีที่สมัครสอบ                             
                2. รอสอบบรรจุติดยศ ในส่วนของกรมทหารพราน ซึ่งการเปิดสอบก็ไม่มากนัก อาจต้องรอนานหน่อย แต่สำหรับพลอาสาสมัครของทหารมหาดเล็กฯ จะมีการพิจารณาแต่งตั้งยศเองใน 2-5 ปี

จบ ม.6
---> สอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบก รับเฉพาะเพศชาย โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 17-21 ปี ในส่วนของบุคคลพลเรือน(เรียน/ไม่เรียนนศท.) จำนวน 1188 นาย และจากทหารกองหนุน/พลอาสาสมัคร/ทหารกองประจำการ/อาสาสมัครทหารพราน (อายุไม่เกิน 24 ปี) จำนวน 792 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 1 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี บรรจุทำงานในหน่วยของกองทัพบกทั่วประเทศ  
  ** น่ารู้ **  มีโควต้าให้ นนส.ที่เรียนดีโดยเกรดเฉลี่ยรวมไม่ต่ำกว่า 3.50 เกรดเฉลี่ยแต่ละวิชาไม่ต่ำกว่า 3.00 และมีคะแนนความประพฤติไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 จำนวนประมาณปีละ 18 นาย ไปเรียนต่อที่ร.ร.เตรียมทหารเพื่อเตรียมเข้ารับการศึกษาต่อที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้าต่อไป    
 ---> สอบเข้าวิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร คือ จบม.6 แผนวิทย์ - คณิต เป็นหญิงโสดอายุระหว่าง 16-25 ปี  สูงไม่ต่ำกว่า 155 ซม. น้ำหนักไม่น้อยกว่า 45 กก. ซึ่งหากต้องการจะได้รับการติดยศร้อยตรี จะต้องสมัครในส่วนของทุนกองทัพบก(รับเฉพาะเพศหญิง) โดยรับจำนวนปีละ 20 นาย ส่วนทุนส่วนตัวจบแล้วไม่ผูกพันราชการจำนวน 60 นาย(รับเพศชายด้วย) โดยการคัดเลือกจะใช้วิธีการยื่นคะแนน o-net gat และpat2 เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 4 ปี จะได้รับวุฒิป.ตรี พยาบาลศาสตรบัณฑิตจากม.มหิดล สามารถนำไปใช้สอบใบประกอบวิชาชีพได้ และสำหรับทุนกองทัพบกจะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นร้อยตรีหญิง บรรจุทำงานตามโรงพยาบาลทหารทั่วประเทศ                 
---> สอบเข้าวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร คือ จบม.6 แผนวิทย์ - คณิต เป็นชาย/หญิงโสดอายุไม่เกิน 20 ปี  เพศชายสูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม. เพศหญิงสูงไม่ต่ำกว่า 150 ซม. ซึ่งหากต้องการจะได้รับการติดยศร้อยตรี จะต้องสมัครในส่วนของทุนกองทัพบก(รับเฉพาะเพศชาย) โดยรับจำนวนปีละ 20 นาย ส่วนทุนส่วนตัวรับจำนวน 80 นาย(ชาย 40 หญิง 40) จบแล้วอาจได้รับการแต่งตั้งยศของโควต้าเหล่าทัพต่างๆ หากเรียนเก่งได้คะแนนอยู่ในลำดับที่จำนวนโควต้ามาถึงก็จะได้รับการติดยศ(มีทั้งทบ. ทร. ทอ.) โดยการคัดเลือกจะใช้วิธีการยื่นคะแนนเหมือนเข้าคณะแพทย์ทั่วไป(แต่ต้องยื่นสมัครกับวพม.ด้วยนะ) เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 6 ปี จะได้รับวุฒิป.ตรี แพทยศาสตรบัณฑิต                  
---> สำหรับผู้ที่พลาดจากเส้นทางที่กล่าวมา อาจเข้ารับราชการชั้นประทวน โดยการสมัครทหารกองประจำการ(ทหารเกณฑ์) เมื่อถึงปีเกณฑ์ทหาร เมื่อประจำการแล้ว 1 ปี จะมีสิทธิ์สอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบเหล่าทหารราบ ซึ่งรับปีละ 600 นาย (สมัครพร้อมนายสิบทหารบก) และยังมีสิทธิ์สมัครสอบนักเรียนนายสิบทหารบกได้อีกด้วย เนื่องจากจะให้เลือก 2 อันดับ แต่หากประจำการไม่ถึง 1 ปี จะสอบได้เฉพาะนักเรียนนายสิบทหารบกเท่านั้น เมือจบหลักสูตร 1 ปีแล้ว จะได้รับการแต่งตั้งยศ สิบตรี บรรจุทำงานทั่วประเทศ (สำหรับนนส.เหล่าร. จะบรรจุในหน่วยทหารราบเท่านั้น)                                       
---> สำหรับผู้ที่พลาดจากเส้นทางที่กล่าวมา อาจเข้ารับราชการชั้นประทวน โดยการสมัครเป็นอาสาสมัครทหารพราน ซึ่งเดี๋ยวจะมีเปิดสอบบรรจุภายใน หากสอบได้จะได้รับการแต่งตั้งยศ สิบตรี บรรจุทำงานในหน่วยทหารพรานที่สอบได้   

จบ ปวช.     
---> เส้นทางนี้สำหรับผู้ชายเท่านั้น โดยขั้นตอนแรกจะต้องเรียนนศท.ปี 3 เป็นอย่างน้อย หรือหากไม่ได้เรียนก็ต้องเคยเป็นทหารกองประจำการมาก่อน(ทหารเกณฑ์) ซึ่งเรียกบุคคลเหล่านี้ว่า "ทหารกองหนุน" เมื่อปลดเป็นกองหนุนเรียบร้อยจะมีการรับสมัครของหน่วยทหารต่างๆโดยตรง ซึ่งสาขาที่รับบ่อย คือ ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างก่อสร้าง เมื่อสอบได้แล้วก็จะบรรจุแต่งตั้งยศสิบตรี          
---> สอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบก รับเฉพาะเพศชาย โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 17-21 ปี ในส่วนของบุคคลพลเรือน(เรียน/ไม่เรียนนศท.) จำนวน 1888 นาย และจากทหารกองหนุน/พลอาสาสมัคร/ทหารกองประจำการ/อาสาสมัครทหารพราน (อายุไม่เกิน 24 ปี) จำนวน 792 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 1 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นสิบตรี บรรจุทำงานในหน่วยของกองทัพบกทั่วประเทศ
  ** น่ารู้ **  มีโควต้าให้ นนส.ที่เรียนดีโดยเกรดเฉลี่ยรวมไม่ต่ำกว่า 3.50 เกรดเฉลี่ยแต่ละวิชาไม่ต่ำกว่า 3.00 และมีคะแนนความประพฤติไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 จำนวนประมาณปีละ 18 นาย ไปเรียนต่อที่ร.ร.เตรียมทหารเพื่อเตรียมเข้ารับการศึกษาต่อที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้าต่อไป    
- --> สำหรับผู้ที่พลาดจากเส้นทางที่กล่าวมา อาจเข้ารับราชการชั้นประทวน โดยการสมัครทหารกองประจำการ(ทหารเกณฑ์) เมื่อถึงปีเกณฑ์ทหาร เมื่อประจำการแล้ว 1 ปี จะมีสิทธิ์สอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบเหล่าทหารราบ ซึ่งรับปีละ 600 นาย (สมัครพร้อมนายสิบทหารบก) และยังมีสิทธิ์สมัครสอบนักเรียนนายสิบทหารบกได้อีกด้วย เนื่องจากจะให้เลือก 2 อันดับ แต่หากประจำการไม่ถึง 1 ปี จะสอบได้เฉพาะนักเรียนนายสิบทหารบกเท่านั้น เมือจบหลักสูตร 1 ปีแล้ว จะได้รับการแต่งตั้งยศ สิบตรี บรรจุทำงานทั่วประเทศ (สำหรับนนส.เหล่าร. จะบรรจุในหน่วยทหารราบเท่านั้น)                                       
---> สำหรับผู้ที่พลาดจากเส้นทางที่กล่าวมา อาจเข้ารับราชการชั้นประทวน โดยการสมัครเป็นอาสาสมัครทหารพราน ซึ่งเดี๋ยวจะมีเปิดสอบบรรจุภายใน หากสอบได้จะได้รับการแต่งตั้งยศ สิบตรี บรรจุทำงานในหน่วยทหารพรานที่สอบได้   

จบป.ตรี      
---> สอบบรรจุชั้นสัญญาบัตร (ร้อยตรี) ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-35 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง สำหรับสาขาที่รับสมัครเป็นประจำ คือ บัญชี การเงิน การธนาคาร วิศวกรรมคอมพิวเตอร์(ชาย) ไฟฟ้า(ชาย) เครื่องกล(ชาย) อิเล็กทรอนิกส์(ชาย) และวิทยาการคอมพิวเตอร์(ชาย) เภสัชศาสตร์ รังสีวิทยา เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด สังคมสงเคราะห์ นิติศาสตร์(ชาย) พุทธศาสตรบัณฑิต/เปรียญธรรม9(ชาย) การรับสมัครประมาณเดือน ธ.ค. - ม.ค. ทุกๆปี  โดยกรมยุทธศึกษาทหารบก

กองทัพเรือ
จบ ม.3     
---> สอบเข้าโรงเรียนดุริยางค์ทหารเรือ รับทั้งเพศชายและหญิง โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 15-18 ปี และต้องมีความสามารถทางดนตรีในระดับ 4 ตามมาตรฐานสากล คะแนน o-net รวมกันทั้งหมดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50  เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช.ดนตรี และแต่งตั้งยศเป็นจ่าตรี บรรจุทำงานในหน่วยกองดุริยางค์ทหารเรือ                    
---> สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เหล่าทหารเรือ (สมัครผ่านร.ร.นายเรือ) โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 14-17 ปี จะรับเพศชายจำนวน 70 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปีจากร.ร.เตรียมทหารแล้ว จะได้รับวุฒิม.6 สายวิทย์ - คณิต และเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่ร.ร.นายเรือโดยไม่ต้องสอบคัด เลือกอีก เมื่อเรียนจบ 4 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเรือตรี บรรจุทำงานในกองทัพเรือ  โดยส่วนหนึ่งจะได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนการบินกำแพงแสนและโรงเรียนการบินทหารบก เพื่อเป็นนักบินของกองทัพเรือ                      
** น่ารู้ **  นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนดีจะได้รับทุนไปศึกษาที่ร.ร.นายเรือต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น สเปน สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส

จบ ม.6     
---> สอบเข้าโรงเรียนชุมพลทหารเรือ รับเฉพาะเพศชาย โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 17-20 ปี ในส่วนของบุคคลพลเรือน(เรียน/ไม่เรียนนศท.) และทหารกองหนุน(จากทหารกองประจำการเท่านั้น)สังกัดทร. อายุไม่เกิน 24 ปี รับปีละจำนวน 740-750 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นจ่าตรี บรรจุทำงานในหน่วยของกองทัพเรือทั่วประเทศตามพรรคเหล่าที่เลือก                      
** น่ารู้ **   นักเรียนจ่าทหารเรือชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนดีจะได้สิทธิสอบแข่งขันกันภายในเพื่อคัดเลือกโควต้าเข้าเรียนที่ร.ร.นายเรือ ปีละ 2 นาย                
---> สอบเข้าวิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร คือ จบม.6 แผนวิทย์ - คณิต เป็นหญิงโสดอายุระหว่าง 16-20 ปี  สูงไม่ต่ำกว่า 155 ซม. น้ำหนักไม่น้อยกว่า 42 กก. ซึ่งการจะได้รับการติดยศเรือตรีนั้น ไม่แน่นอน อาจต้องทำงานในกองทัพเรือไประยะหนึ่ง โดยรับจำนวนปีละ 60 นาย ประเภททุนส่วนตัวทั้งหมด โดยการคัดเลือกจะใช้วิธีการยื่นคะแนน o-net gat และpat2 เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 4 ปี จะได้รับวุฒิป.ตรี พยาบาลศาสตรบัณฑิตจากม.มหิดล สามารถนำไปใช้สอบใบประกอบวิชาชีพได้                                                                             
---> สอบเข้าวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ประเภททุนส่วนตัว โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร คือ จบม.6 แผนวิทย์ - คณิต เป็นชาย/หญิงโสดอายุไม่เกิน 20 ปี  เพศชายสูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม. เพศหญิงสูงไม่ต่ำกว่า 150 ซม. ซึ่งหากเรียนเก่งได้คะแนนอยู่ในลำดับที่จำนวนโควต้ามาถึงก็จะได้รับการติดยศ(มีทั้งทบ. ทร. ทอ.) โดยการคัดเลือกจะใช้วิธีการยื่นคะแนนเหมือนเข้าคณะแพทย์ทั่วไป(แต่ต้องยื่นสมัครกับวพม.ด้วยนะ) เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 6 ปี จะได้รับวุฒิป.ตรี แพทยศาสตรบัณฑิต       
---> สำหรับผู้หญิง ในบางปีกองทัพเรือจะรับสมัคร สารวัตรทหารเรือหญิง โดยมีคุณสมบัติคือ อายุ 18-30 ปี หญิงโสด สูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม. ว่ายน้ำเป็น   

จบปวช.    
---> สอบเข้าโรงเรียนชุมพลทหารเรือ รับเฉพาะเพศชาย โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 17-20 ปี ในส่วนของบุคคลพลเรือน(เรียน/ไม่เรียนนศท.) และทหารกองหนุน(จากทหารกองประจำการเท่านั้น)สังกัดทร. อายุไม่เกิน 24 ปี รับปีละจำนวน 740-750 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นจ่าตรี บรรจุทำงานในหน่วยของกองทัพเรือทั่วประเทศตามพรรคเหล่าที่เลือก                      
** น่ารู้ **   นักเรียนจ่าทหารเรือชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนดีจะได้สิทธิสอบแข่งขันกันภายในเพื่อคัดเลือกโควต้าเข้าเรียนที่ร.ร.นายเรือ ปีละ 2 นาย                                     
---> ในบางปีกองทัพเรือจะรับสมัคร สารวัตรทหารเรือหญิง โดยมีคุณสมบัติคือ อายุ 18-30 ปี หญิงโสด สูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม. ว่ายน้ำเป็น และสาขาบัญชี การเงิน สำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง อายุ18-30 ปีเช่นกัน    
      
จบ ป.ตรี     
  ---> สอบบรรจุชั้นสัญญาบัตร (เรือตรี) ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-35 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง สำหรับสาขาที่รับสมัครเป็นประจำ คือ บัญชี การเงิน การธนาคาร วิศวกรรมเครื่องกล โยธา นิติศาสตร์ พุทธศาสตรบัณฑิต/เปรียญธรรม9 การรับสมัครประมาณเดือน ก.ค. - ส.ค. ทุกๆปี  โดยกรมกำลังพลทหารเรือ

กองทัพอากาศ
จบ ม.3     
---> สอบเข้าโรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 15-18 ปี และต้องมีความสามารถทางดนตรีทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ (ส่วนใหญ่จะเป็นด้านวงโยธาวาทิต ดุริยางค์ และเครื่องสาย) จะรับเพศชายจำนวน 15-17 นาย และเพศหญิงจำนวน 5 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช.ดนตรี และแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุทำงานตามกองดุริยางค์ทหารอากาศทั่วประเทศ             
---> สอบเข้าโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ในส่วนของภาคปกติ โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 15-18 ปี จะรับเพศชายจำนวน 250 - 300 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช.ตามสาขาช่างที่เลือกศึกษา และแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุทำงานในกองทัพอากาศส่วนหนึ่ง (ยังมีโควต้าของกองทัพไทย และกองทัพบกอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะเลือกหลังจบการศึกษาตามคะแนนสอบ)                  
---> สอบเข้าโรงเรียนจ่าอากาศ โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 15-18 ปี จะรับเพศชายจำนวนแต่ละปีไม่เท่ากัน จะอยู่ระหว่าง 220-250 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช.ตามสาขาที่เลือก และแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุทำงานในกองทัพอากาศ                    
  ** น่ารู้ **  นักเรียนจ่าอากาศชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนดีจะได้โควต้าเข้าเรียนที่ร.ร.เตรียมทหาร ส่วนของกองทัพอากาศ ปีละ 4 นาย (ต้องมีอายุไม่เกิน 17 ปีในปีที่สมัครเข้าเป็นนักเรียนจ่าอากาศ)               
---> สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เหล่าทหารอากาศ (สมัครผ่าน ร.ร.นายเรืออากาศ) โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 14-17 ปี จะรับเพศชายจำนวน 84 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปีจากร.ร.เตรียมทหารแล้ว จะได้รับวุฒิม.6 สายวิทย์ - คณิต และเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่ร.ร.นายเรืออากาศโดยไม่ต้องสอบคัด เลือกอีก เมื่อเรียนจบ 4 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเรืออากาศตรี บรรจุทำงานในกองทัพอากาศ โดยส่วนหนึ่งจะได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนการบินกำแพงแสน เพื่อเป็นนักบินของกองทัพอากาศ                        
** น่ารู้ **  นักเรียนนายเรืออากาศชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนดีจะได้รับทุนไปศึกษาที่ร.ร.นายเรืออากาศต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น สเปน สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส                          
---> เส้นทางนี้ก็สำหรับผู้ชายเท่านั้น โดยการสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการสังกัดทอ. เส้นทางที่จะได้ติดยศ จ่าอากาศตรี มี 3 เส้นทาง คือ                           
          1. สมัครสอบบรรจุ (เฉพาะเหล่าอากาศโยธิน และสารวัตร)                            
          2. สมัครเข้าฝึกหลักสูตรปฏิบัติการพิเศษ อย. ให้ได้ เมื่อฝึกจบจะได้รับการพิจารณาติดยศจ่าอากาศตรี (ต้องประจำการ 2 ปี) 

จบ ม.6       
---> สอบเข้าโรงเรียนจ่าอากาศ โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 17-20 ปี จะรับเพศชายจำนวนแต่ละปีไม่เท่ากัน จะอยู่ระหว่าง 100-125 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุทำงานในกองทัพอากาศ                   
---> สอบเข้าวิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร คือ จบม.6 แผนวิทย์ - คณิต เป็นหญิงโสดอายุระหว่าง 17-22 ปี  สูงไม่ต่ำกว่า 155 ซม. น้ำหนักไม่น้อยกว่า 40 กก. ซึ่งหากต้องการจะได้รับการติดยศเรืออากาศตรี จะต้องสมัครในส่วนของทุนกองทัพอากาศ โดยรับจำนวนปีละ 20 นาย ส่วนทุนส่วนตัวจบแล้วไม่ผูกพันราชการจำนวน 30 นาย(แต่จะได้รับการพิจารณาเป็นอันดับแรกเมื่อกองทัพอากาศต้องการกำลังพล) โดยการคัดเลือกจะใช้วิธีการยื่นคะแนน o-net gat และpat2 เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 4 ปี จะได้รับวุฒิป.ตรี พยาบาลศาสตรบัณฑิตจากม.มหิดล สามารถนำไปใช้สอบใบประกอบวิชาชีพได้ และสำหรับทุนกองทัพบกจะได้รับการแต่ง ตั้งยศเป็นเรืออากาศตรีหญิง บรรจุทำงานตามโรงพยาบาลทหารในส่วนของกองทัพอากาศ                
---> สอบเข้าวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร คือ จบม.6 แผนวิทย์ - คณิต เป็นชาย/หญิงโสดอายุไม่เกิน 20 ปี  เพศชายสูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม. เพศหญิงสูงไม่ต่ำกว่า 150 ซม. ซึ่งหากต้องการจะได้รับการติดยศร้อยตรี จะต้องสมัครในส่วนของทุนกองทัพบก(รับเฉพาะเพศชาย) โดยรับจำนวนปีละ 20 นาย ส่วนทุนส่วนตัวรับจำนวน 80 นาย(ชาย 40 หญิง 40) จบแล้วอาจได้รับการแต่งตั้งยศของโควต้าเหล่าทัพต่างๆ หากเรียนเก่งได้คะแนนอยู่ในลำดับที่จำนวนโควต้ามาถึงก็จะได้รับการติดยศ(มี ทั้งทบ. ทร. ทอ.) โดยการคัดเลือกจะใช้วิธีการยื่นคะแนนเหมือนเข้าคณะแพทย์ทั่วไป(แต่ต้องยื่น สมัครกับวพม.ด้วยนะ) เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 6 ปี จะได้รับวุฒิป.ตรี แพทยศาสตรบัณฑิต               
---> สอบบรรจุชั้นประทวน (จ่าอากาศตรี) ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-30 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง(ในบางตำแหน่ง เช่น สารวัตรทหารหญิง เสมียน) ตำแหน่งที่รับสมัครเป็นประจำ คือ เสมียน เจ้าหน้าที่สารวัตร เจ้าหน้าที่กำลังพล เจ้าหน้าที่นิรภัย เจ้าหน้าที่วัสดุ การรับสมัครประมาณเดือน ม.ค. - ก.พ. ทุกๆปี  โดยกรมกำลังพลทหารอากาศ 

จบ ปวช.     
---> สอบเข้าโรงเรียนจ่าอากาศ โดยกำหนดอายุผู้สมัครระหว่าง 17-20 ปี จะรับเพศชายจำนวนแต่ละปีไม่เท่ากัน จะอยู่ระหว่าง 100-125 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุทำงานในกองทัพอากาศ                  
---> สอบบรรจุชั้นประทวน (จ่าอากาศตรี) ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-30 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง(ในบางตำแหน่ง เช่น เขียนแบบ งานภาคพื้นสาขาสำรวจ) สำหรับสาขาที่รับสมัครเป็นประจำ คือ บัญชี การเงิน การธนาคาร ยานยนต์ ไฟฟ้า สำรวจ เขียนแบบ อิเล็กทรอนิกส์ ก่อสร้าง คอมพิวเตอร์ ถ่ายภาพ การรับสมัครประมาณเดือน ม.ค. - ก.พ. ทุกๆปี  โดยกรมกำลังพลทหารอากาศ 

จบป.ตรี     
---> สอบบรรจุชั้นสัญญาบัตร (เรืออากาศตรี) ตามปีงบประมาณ โดยกำหนดอายุของผู้สมัครระหว่าง 18-35 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง สำหรับสาขาที่รับสมัครเป็นประจำ คือ บัญชี การเงิน การธนาคาร คอมพิวเตอร์ ไฟฟ้า เครื่องกล อิเล็กทรอนิกส์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ สถาปัตย์ บรรณารักษ์ สถิติ กายภาพบำบัด สังคมสงเคราะห์ นิติศาสตร์ สาธารณสุข ภาษาอังกฤษ รัฐศาสตร์/รัฐประศาสนศาสตร์สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พุทธศาสตรบัณฑิต/เปรียญธรรม9 การรับสมัครประมาณเดือน ม.ค. - ก.พ. ทุกๆปี  โดยกรมกำลังพลทหารอากาศ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/theroadtosoldierpoliceth



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น