ประกาศกรมการสารวัตรทหารบก
เรื่อง รับสมัครทหารกองหนุน เพื่อสอบคัดเลือกบรรจุเข้ารับราชการ เป็น
พลอาสาสมัคร เหล่าทหารสารวัตร ประจำปีงบประมำณ ๒๕๕๗
๑ . คุณสมบัติทั่วไป
๑.๑ เป็นทหารกองหนุนประเภท ๑ หรือผู้สำเร็จการศึกษาวิชาทหาร
ชั้นปีที่ ๓ – ๕ อายุไม่ต่ำกว่า ๑๘ ปีบริบูรณ์และไม่เกิน ๓๐
ปีบริบูรณ์
๑.๒ เพศชาย มีความสูงตั้งแต่ ๑๖๘
เซนติเมตรขึ้นไป
๑.๒ สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
( ม.๓ ) หรือเทียบเท่า ขึ้นไป สำหรับผู้ที่มีคุณวุฒิสูงกว่าที่กำหนดไว้ หากสอบคัดเลือกได้แล้วจะใช้คุณวุฒิที่สูงกว่านั้นมาเรียกร้องสิทธิบรรจุตามคุณวุฒิที่ตนมีอยู่ไม่ได้
๑.๓ เป็นผู้มีคุณสมบัติตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร
พ.ศ.๒๔๙๗
๑.๔ บิดา,มารดามีสัญชาติไทยโดยการเกิด
มิใช่การแปลงสัญชาติ
๑.๕ เป็นผู้มีร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง
ไม่เป็นผู้ที่มีร่างกายพิการ ทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถ
หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ซึ่งออกตามความในมาตรำ
๔๑ แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๕
๑.๖ มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เคยเป็นผู้ติดยาเสพติดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดให้โทษ
ทั้งทางตรงและทางอ้อม และไม่เคยต้องโทษในคดียาเสพติดทุกประเภท
๑.๗ ไม่เป็นผู้ต้องโทษในคดีอาญา โดยคำพิพากษาของศาลหรืออยู่ระหว่างดำเนินคดีของศาล
๑.๘ มีรูปร่างบุคลิกลักษณะเหมาะสมกับการเป็นทหาร
๑.๙ เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
๑.๑๐ ไม่เป็นผู้ที่เคยให้ถูกออกจากราชการ เพราะมีความผิดหรือมีมลทินมัวหมอง
๑.๑๑ ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีงาม
ไม่เป็นผู้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือบุคคลล้มละลายตามคำพิพากษาของศาล
๑.๑๒ ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างพักราชการ
๑.๑๓ ไม่เป็นบุคคลที่ต้องโทษจำคุก ตามคำพิพากษาของศาลในคดีอาญา
เว้นแต่ความผิด ลหุโทษ หรือฐานประมาท
๑.๑๔ ไม่อยู่ในสมณเพศ
๑.๑๕ ผู้ที่มีประวัติคดีอาญาและไม่กรอกข้อมูลลงในใบสมัครรับราชการและไม่แจ้งข้อเท็จจริงตามความเป็นจริง
เมื่อตรวจพบภายหลังจะถือว่าแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จต่อทางราชการ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อ
ทบ. ในภายหลัง ดังนั้น จะสงวนสิทธิในการพิจารณาไม่รับการบรรจุหรือยกเลิก เพิกถอน
ระงับ การบรรจุในภายหลัง
๑.๑๖ งดรับสมัครพลทหารประจำการ และนายสิบกองหนุนที่มีชั้นยศ
จ.ส.ต. – จ.ส.อ. กลับเข้ารับราชการ ใน ทบ.
๒. หลักฐานการรับสมัคร
๒.๑ รูปถ่ายสี ( หน้าตรงไม่สวมหมวกหรือแว่นตำสีดำ
) ขนาด ๑ นิ้ว จำนวน ๓ รูป
๒.๒ ใบประกาศนียบัตรหรือใบสุทธิ
หรือใบระเบียนแสดงผลการเรียน
๒.๓ ทะเบียนบ้านของผู้สมัคร,บิดา
และมารดา ( กรณีบิดาหรือมารดาเสียชีวิต ให้ใช้ใบมรณบัตร หรือหากมีการเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล
ของผู้สมัคร,บิดา และมารดา ให้แนบหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุลมาด้วย
)
๒.๔ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัคร
๒.๕ สมุดประจำตัวทหารกองหนุน ( แบบ สด.๘ ) ถ้าเป็นผู้สำเร็จการฝึกวิชาทหาร
ชั้นปีที่ ๓ – ๕ ให้นำใบประกาศนียบัตรที่แสดงว่า สำเร็จการศึกษาวิชาทหาร
๒.๖ ใบสำคัญความเห็นแพทย์ทหาร ( แบบ ทบ.๔๖๖ –
๖๒๐ )
๒.๗ สำเนาคำสั่งแต่งตั้งยศสิบตรีกองประจำการ (
ถ้ามี )
๒.๘ ใบทะเบียนสมรสของบิดา มารดา ( กรณีบิดา มารดา
หย่าให้ใช้ใบทะเบียนหย่า )
๒.๙ หนังสือรับรองการเป็นบุตรข้าราชการทหาร,ลูกจ้างชั่วคราว,ลูกจ้างประจำและพนักงานราชการ
สังกัด ทบ. ซึ่งประสบอันตรายทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ หรือเสียชีวิต เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่
๒.๑๐ หนังสือรับรองการเป็นบุตรข้าราชการทหาร
สังกัด ทบ. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
๒.๑๑ หนังสือรับรองการเป็นลูกจ้างชั่วคราว,ลูกจ้างประจำและพนักงานราชการ
สังกัด ทบ.ที่ยังปฏิบัติงานใน ทบ. โดยมีระยะเวลาปฏิบัติงานใน ทบ. ตั้งแต่ ๒
ปีขึ้นไป
๒.๑๒ หลักฐานตามข้อ ๒.๑ ถึง ๒.๑๑ ให้ถ่ายสำเนาอย่างละ
๒ ฉบับ พร้อมนำฉบับจริงมาด้วย
๓.
ผู้สมัครสอบที่มีสิทธิ์ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษในการสอบคัดเลือกฯ
๓.๑ เป็นบุตรข้าราชการทหาร,ลูกจ้างชั่วคราว,ลูกจ้างประจำและพนักงานราชการ
สังกัด ทบ.ซึ่งประสบอันตรายทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ ได้คะแนนเพิ่ม ๑๐ ใน ๑๐๐
คะแนน
๓.๒ เป็นบุตรข้าราชการทหาร,ลูกจ้างชั่วคราว,ลูกจ้างประจำและพนักงานราชการ
สังกัด ทบ.ที่เสียชีวิต เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศและได้รับการปูนบำเหน็จพิเศษ
ได้คะแนนเพิ่ม ๑๐ ใน ๑๐๐ คะแนน
๓.๓ เป็นบุตรข้าราชการทหาร สังกัด ทบ.
ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้คะแนนเพิ่ม ๕ ใน ๑๐๐ คะแนน
๓.๔ ลูกจ้างชั่วคราว,ลูกจ้างประจำและพนักงานราชการ
สังกัด ทบ. ที่ปฏิบัติงานใน ทบ.และมีระยะเวลาปฏิบัติงานใน ทบ.ตั้งแต่ ๒ ปีขึ้นไป
ได้คะแนนเพิ่ม ๕ ใน ๑๐๐ คะแนน
๓.๕ ผู้ที่มีคุณสมบัติได้รับการเพิ่มคะแนนจากหลักเกณฑ์ข้างต้นหลายข้อ
ให้ใช้ข้อที่ได้รับคะแนนสูงสุดเพียงข้อเดียว
๓.๖ การเพิ่มคะแนนจากหลักเกณฑ์ข้างต้น
จะใช้คิดคะแนนเฉพาะในการสอบขั้นที่ ๑ ( ภาควิชาการ )
๔. วิชาที่ทำการสอบและขอบเขต
ผู้สมัครสอบจะต้องทดสอบความรู้ ดังนี้
๔.๑ สอบภาควิชาการ จำนวน ๑๐๐ ข้อ ๆ ละ ๑ คะแนน
แบ่งเป็น ๓ รายวิชา ดังนี้
๔.๑.๑ วิชาภาษาไทย จำนวน ๔๐ ข้อ ๔๐ คะแนน
ขอบเขต/เอกสาร หลักสูตรมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ( กระทรวงศึกษาธิการ )
๔.๑.๒ วิชากฎหมายเบื้องต้น จำนวน ๓๐ ข้อ ๓๐
คะแนน
๔.๑.๓ ความรู้ทั่วไป จำนวน ๓๐ ข้อ ๓๐ คะแนน (
สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การทหาร ) ขอบเขต/เอกสาร หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่
๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗
๔.๒ ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
ใช้หลักเกณฑ์ที่กองทัพบกกำหนด ( การแต่งกายชุดกีฬา )
๔.๒.๑ ดันพื้น เวลา ๒ นาที
๔.๒.๒ ลุกนั่ง เวลา ๒ นาที
๔.๒.๓ วิ่งระยะทาง ๒ กม.
๔.๓ สอบสัมภาษณ์และทดสอบทัศนคติ
๕. กำหนดวัน เวลา สถานที่รับสมัครและสถานที่สอบ
๕.๑ ประกาศเปิดรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ พฤษภาคม
๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ เว้นวันหยุดราชการ ณ แผนกกำลังพล กองแผนและฝึก
กรมการสารวัตรทหารบก ถนนพระรามที่ ๖ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
๕.๒ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ ( ขั้นที่ ๑ ภาควิชาการ
) วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗
๕.๓ สอบคัดเลือกภาควิชาการ ( ขั้นที่ ๑ )
วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙๐๐ – ๑๖๐๐ ณ โรงเรียนทหารสารวัตร กรมการสารวัตรทหารบก
๕.๔ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบภาควิชาการ (
ขั้นที่ ๑ ) วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗
๕.๕ ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย,สอบสัมภาษณ์และทดสอบทัศนคติ
( ขั้นที่ ๒ )วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๗
๕.๖ ประกาศผลการสอบรอบสุดท้าย ( ขั้นที่ ๒ )
วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗
๖. การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพร่างกายที่
กองทัพบกกำหนด ( คะแนนรวมกันทั้ง ๓ สถานี ) มีคะแนน ๓๐ คะแนน
๗. การเลือกตำแหน่งบรรจุ ทำการเลือกตำแหน่งจากผู้ที่สอบคัดเลือกที่มีคะแนนสูงสุด
โดยเรียงลำดับจากตัวจริงไปจนถึงตัวสำรองจนกว่าจะครบตามอัตราที่เปิดบรรจุ โดยผู้ผ่านการคัดเลือกบรรจุตามตำแหน่งจะต้องรายงานตัวและทำสัญญาในการบรรจุเข้ารับราชการตามกำหนด
๘. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกฯ
และประกาศผลการสอบคัดเลือกฯ ทางเว็บไซต์ของ ศูนย์การเรียนรู้ กรมการสารวัตรทหารบก
( pmkmcenter.com )
ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
(ลงชื่อ) พลตรี พันธ์ยศ พันธ์เพิ่มศิริ
( พันธ์ยศ พันธ์เพิ่มศิริ )
เจ้ากรมการสารวัตรทหารบก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น