เรามาดูกันครับว่า คะแนนเพิ่มพิเศษดังกล่าวมีผลทำให้ได้เปรียบบุคคลอื่นหรือไม่อย่างไร
(ไม่ชอบไม่ว่ากันนะ อย่าอุ้มผมนะ นี่อาจเป็นเพียงการเสนอแนะจากผมครับ)
ทีนี้มาว่ากันแยกเป็นสาขากันเลยครับ
1. ระดับปริญญาโท การสอนภาษาอังกฤษ 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 7 คน ไม่มีปัญหา ไม่มีใครมีสิทธิ์ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษเลย
2. ระดับปริญญาโท สาขาคณิตศาสตร์ 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 10 คน ไม่มีปัญหา ไม่มีใครมีสิทธิ์ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษเลย
3. ระดับปริญญาตรี การวัดและประเมินผลการศึกษา 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 7 คน ไม่มีปัญหา ไม่มีใครมีสิทธิ์ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษเลย และไม่มีผู้สอบผ่านเกณฑ์ที่กำหนด (ต้องได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 50)
4. ระดับปริญญาตรี วิทยาการคอมพิวเตอร์/วิศวกรรมคอมพิวเตอร์/เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 130 คน มีผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 18 คน (เรียนนศท.ได้เพิ่มร้อยละ 3 จำนวน 16 คน เป็นข้าราชการทร.ไม่น้อยกว่า 2 ปีได้เพิ่มร้อยละ 5 จำนวน 1 คน และเป็นนักกีฬาระดับสโมสร/สมาคม/แข่งขันระดับชาติหรือเป็นผู้ที่บิดามารดาสังกัดทร.และได้ประสบอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่/ถูกประทุษร้าย/บาดเจ็บเพราะเหตุที่กระทำตามหน้าที่ได้เพิ่มร้อยละ 10 จำนวน 1 คน)
- ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ 3 อันดับแรกที่คัดไว้สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายนั้น เป็นผู้ได้คะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 3 จำนวน 1 คน ไม่เป็นผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษ จำนวน 2 คน
5. ระดับปริญญาตรี วิชาบัญชี/การบัญชี/บัญชีการเงิน/บัญชีบริหาร/การสอบบัญชี/การบัญชีการเงิน/การเงินและการธนาคาร 4 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 430 คน มีผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 35 คน (เรียนนศท.ได้เพิ่มร้อยละ 3 จำนวน 12 คน เป็นข้าราชการทร.ไม่น้อยกว่า 2 ปีได้เพิ่มร้อยละ 5 จำนวน 23 คน)
- ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ 12 อันดับแรกที่คัดไว้สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายนั้น เป็นผู้ได้คะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 5 จำนวน 10 คน และเป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 2 คน
6. ระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต และเป็นสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภา 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 120 คน มีผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 8 คน (เรียนนศท.ได้เพิ่มร้อยละ 3 จำนวน 7 คน เป็นข้าราชการทร.ไม่น้อยกว่า 2 ปีได้เพิ่มร้อยละ 5 จำนวน 1 คน)
- ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ 3 อันดับแรกที่คัดไว้สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายนั้น เป็นผู้ได้คะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 3 จำนวน 1 คน และเป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 2 คน
7. ระดับปริญญาตรี สถิติ/สถิติศาสตร์/สถิติคณิตศาสตร์/สถิติประยุกต์ 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 49 คน มีผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 4 คน (เรียนนศท.ได้เพิ่มร้อยละ 3 จำนวน 4 คน)
- ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ 3 อันดับแรกที่คัดไว้สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายนั้น เป็นผู้ได้คะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 3 จำนวน 1 คน และเป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 2 คน
8. ระดับปริญญาตรี ภาษาอังกฤษ/การสอนภาษาอังกฤษ 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 21 คน มีผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 2 คน (เรียนนศท.ได้เพิ่มร้อยละ 3 จำนวน 2 คน)
- ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ 3 อันดับแรกที่คัดไว้สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายนั้น เป็นผู้ได้คะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 3 จำนวน 1 คน และเป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 2 คน
9. ระดับปริญญาตรี ภาษาอังกฤษ 2 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 107 คน มีผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 6 คน ไม่แน่ใจ 1 คนว่าได้ส่งหลักฐานหรือไม่ (เรียนนศท.ได้เพิ่มร้อยละ 3 จำนวน 3 คน เป็นข้าราชการทร.ไม่น้อยกว่า 2 ปีได้เพิ่มร้อยละ 5 จำนวน 2 คน และเป็นนักกีฬาระดับสโมสร/สมาคม/แข่งขันระดับชาติหรือเป็นผู้ที่บิดามารดาสังกัดทร.และได้ประสบอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่/ถูกประทุษร้าย/บาดเจ็บเพราะเหตุที่กระทำตามหน้าที่ได้เพิ่มร้อยละ 10 จำนวน 1 คน)
- ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ 6 อันดับแรกที่คัดไว้สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายนั้น เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษทั้งหมด
10. ระดับปริญญาตรี การวัดผลการศึกษา 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 3 คน ไม่มีปัญหา ไม่มีใครมีสิทธิ์ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษเลย และไม่มีผู้สอบผ่านเกณฑ์ที่กำหนด (ต้องได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 50)
11. ระดับปริญญาตรี วิศวกรรมเครื่องกล 2 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 66 คน มีผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 6 คน (เรียนนศท.ได้เพิ่มร้อยละ 3 จำนวน 5 คน และเป็นนักกีฬาระดับสโมสร/สมาคม/แข่งขันระดับชาติหรือเป็นผู้ที่บิดามารดาสังกัดทร.และได้ประสบอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่/ถูกประทุษร้าย/บาดเจ็บเพราะเหตุที่กระทำตามหน้าที่ได้เพิ่มร้อยละ 10 จำนวน 1 คน)
- ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ 6 อันดับแรกที่คัดไว้สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายนั้น เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษทั้งหมด
12. ระดับปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต/ศาสนศาสตรบัณฑิต และเปรียญธรรมไม่ต่ำกว่า 3 ประโยค/เปรียญธรรม 9 ประโยค 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 14 คน ไม่มีปัญหา ไม่มีใครมีสิทธิ์ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษเลย
13. ระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตร์ทางทะเล/สมุทรศาสตร์ 1 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 18 คน ไม่มีปัญหา ไม่มีใครมีสิทธิ์ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษเลย
14. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาการบัญชี 25 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 369 คน มีผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 23 คน (เรียนนศท.ได้เพิ่มร้อยละ 3 จำนวน 22 คน และเป็นนักกีฬาระดับสโมสร/สมาคม/แข่งขันระดับชาติหรือเป็นผู้ที่บิดามารดาสังกัดทร.และได้ประสบอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่/ถูกประทุษร้าย/บาดเจ็บเพราะเหตุที่กระทำตามหน้าที่ได้เพิ่มร้อยละ 10 จำนวน 1 คน)
- ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ 45 อันดับแรกที่คัดไว้สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายนั้น เป็นผู้ได้คะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 3 จำนวน 2 คน ได้คะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 10 จำนวน 1 คน และเป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 22 คน
15. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า ทุกสาขา จำนวน 6 อัตรา
- ผู้สมัครสอบ 1,148 คน มีผู้มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 65 คน (เรียนนศท.ได้เพิ่มร้อยละ 3 จำนวน 59 คน และเป็นนักกีฬาระดับสโมสร/สมาคม/แข่งขันระดับชาติหรือเป็นผู้ที่บิดามารดาสังกัดทร.และได้ประสบอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่/ถูกประทุษร้าย/บาดเจ็บเพราะเหตุที่กระทำตามหน้าที่ได้เพิ่มร้อยละ 10 จำนวน 6 คน)
- ปรากฏว่า ผู้ที่สอบได้ 17 อันดับแรกที่คัดไว้สอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายนั้น เป็นผู้ได้คะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 3 จำนวน 2 คน ได้คะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 10 จำนวน 1 คน และเป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนเพิ่มพิเศษจำนวน 14 คน
ความเห็นส่วนตัวของแอ๊ด
สำหรับตัวผมเอง ผมมองโดยรวมแล้วก็ยังถือไม่ได้ว่าคะแนนเพิ่มพิเศษจะมีผลถึงขนาดจะทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบกันมากเกินไปนะ
จะขอติงก็ตรงที่คะแนนของข้าราชการลูกจ้างทร.ที่ให้ถึงร้อยละ 5 ที่มองดูว่าค่อนข้างจะมีผลมากหน่อย ในส่วนของ ป.ตรีบัญชีที่มีทหารเรือมาสอบกันจำนวนมากและติดกันไปหมดเลยที่อาจถูกมองว่านี่ได้เปรียบจากคะแนนและได้เปรียบจากประสบการณ์การทำงานทุกวันด้วย(ใช้ทุกวันย่อมเชี่ยวชาญและแม่นยำกว่าผู้ที่พึ่งจะมาทบทวนก่อนสอบ)
ซึ่งในส่วนของ ทบ. ก็มีคะแนนให้แบบนี้เหมือนกัน ให้ร้อยละ 5 จาก 500 คะแนนเท่ากันในภาควิชาการรอบแรก(รอบสองก็เพิ่มให้แต่ไม่ขอเทียบเพราะทร.สอบรอบสองมีเพียงผ่านไม่ผ่าน) ผลก็คือปี 57 ที่ผ่านมามีทหารจากทบ.สอบได้หลายตำแหน่งชนิดที่เฉือนบุคคลภายนอกไปไม่ถึง 25 คะแนน (ถ้าไม่มีคะแนนเพิ่มบุคคลภายนอกก็อาจจะเป็นผู้สอบได้แทน)
นอกจากนี้ยังขอเปรียบเทียบกับของ ทอ. ที่ไม่มีคะแนนเพิ่มพิเศษให้ข้าราชการภายในของตนเองเลยหรือแม้กระทั่งจบนศท.มา(มีให้แต่ทหารเกณฑ์ของทอ.) ผลที่ออกมาคือ กลายเป็นสนามที่พลเรือนสอบได้กันจำนวนมาก
ผมก็ไม่ทราบหรอกนะว่านี่เป็นนโยบายของกองทัพหรือไม่ ที่ต้องการบุคคลภายนอกที่เก่งมาก(ถ้าไม่เก่งมากหรือเตรียมตัวมาดีมากนี่รอดเข้าไปยาก) และต้องการให้เป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพลที่รับใช้ชาติมานานเสียสละมานานในการไขว่คว้าโอกาสความก้าวหน้าหรือไม่(ถ้าใช่ผมว่าก็เหมาะสมดี) และอยากแนะนำให้คนที่อยากจะเป็นทหารลองสอบชั้นประทวนไปก่อนแล้วจึงค่อยสอบเป็นสัญญาบัตร(มีคนทำแบบนี้กันมากแล้วนะไม่ใช่เรื่องแปลก)
แต่ถ้าใครไม่ชอบแบบนี้จะรอสอบสัญญาบัตรก็ไม่ว่ากัน สำหรับพลเรือนก็จะมีกองทัพไทยกับกองทัพอากาศนี่แหละที่พลเรือนสอบกันมหาศาลและสอบกันได้เยอะ (เพราะมีรับสมัครทางอินเตอร์เน็ตด้วย ต่างจากทบ.และทร.ต้องไปสมัครเองเท่านั้นที่กทม.แห่งเดียว)
ยังไงก็ถ้ายังแน่วแน่อยู่นะ ตั้งใจอ่านหนังสือให้เต็มที่กันดีกว่าควรจะข้ามประเด็นนี้ไป ถ้าไม่อยากเจอประเด็นนี้ก็สอบทหารอากาศ ปีหน้ามีอีกครับ กองทัพบกประมาณ ธ.ค.57 กองทัพอากาศประมาณ ม.ค.58 กองทัพไทยประมาณ เม.ย.58 และกองทัพเรือประมาณ ส.ค.58
ปล. ร้อยละ 3 = 15 คะแนน ร้อยละ 5 = 25 คะแนน ร้อยละ 10 = 50
// ADMIN อัศวินน้อย //
The Road To Soldier & Police เส้นทางสู่อาชีพทหาร - ตำรวจ
บล็อกเกอร์ : http://theroadtosoldierpoliceth.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น