มาแล้วนะครับสำหรับน้องๆม.6 สำหรับผู้ที่มีความฝันอยากเป็นแพทย์ทหาร วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า(วพม.) ประกาศรับสมัครแล้วครับ
ก่อนอื่นขอแนะแนวก่อนว่าแพทย์ทหารมาจากไหนบ้าง ขอแบ่งออกเป็น 3 สาย คือ
1. สายตรง มาจากนักเรียนแพทย์ทหาร(นพท.)ประเภททุนกองทัพบก ของวพม.(เป็นวิทยาลัยเดียวในประเทศไทยที่ผลิตแพทย์ทหารให้กับทุกเหล่าทัพ) จะรับเฉพาะเพศชาย จำนวนปีละ 20 นาย (คัดตัวเมื่อจบปี 1 โดยพิจารณาจากผลสอบปี 1 เรียงตามลำดับ และพละศึกษา คือ ดันพื้น 32 ครั้งภายใน 2 นาที ลุกนั่ง 42 ครั้งภายใน 2 นาที วิ่ง 2 กม.ภายใน 11 นาที และว่ายน้ำท่ามาตรฐานต่อเนื่องได้ 25 เมตร) ซึ่งนักเรียนแพทย์ทหารประเภททุนกองทัพบกนี้จะได้รับการยกเว้นค่าบำรุงการศึกษา ค่าที่พัก ได้รับการแจกจ่ายเครื่องแบบ ได้รับเงินเดือน และเบี้ยเลี้ยง เมื่อจบหลักสูตรจะได้รับการบรรจุให้เข้ารับราชการทหารบกแน่นอน ยศร้อยตรี (เปรียบเป็นนายร้อยจปร.ทางแพทย์ก็น่าจะไม่ผิดนัก) และจะได้รับพระราชทานกระบี่ด้วย
2. สายนักศึกษาแพทย์ จาก วพม. ต่างจากสายตรงข้อ 1. ตรงที่ ในกลุ่มนี้คือนักศึกษาแพทย์ประเภททุนส่วนตัว หรือทุนโครงการผลิตแพทย์เพิ่ม (ทุนกองทัพบกจะเรียกว่า นักเรียนแพทย์ทหาร) กล่าวคือ 80 คนไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงในรุ่นของวพม.นั่นแหละ แต่สอบไม่ได้เป็นทุนกองทัพบกหรือเป็นเพศหญิงที่ไม่มีสิทธิ์สอบ โดยตลอดการศึกษาจะศึกษาและฝึกทหารร่วมกับนักเรียนแพทย์ทหารทุกประการ(มีให้สมัครใจไปฝึกโดดร่มกับนายร้อยจปร.ด้วยทั้งชายและหญิง) แต่จะจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งค่าบำรุงการศึกษา(ปีละ 24,000บาท) ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเครื่องแบบเองทั้งหมด(แต่งเครื่องแบบทหารเหมือนทุนกองทัพบก) ทั้งนี้ก็ยังมีโอกาสได้เป็นแพทย์ทหารสูงอยู่เช่นกัน แต่ต้องเรียนให้จบก่อน เมื่อเรียนจบแล้วก็จะมีอัตราว่างของแต่ละเหล่าทัพมาให้เราได้บรรจุครับมีทั้งชายและหญิง มีทุกเหล่าก็แล้วแต่ว่าเราสอบได้ลำดับที่เท่าไหร่ของรุ่น ถ้าอันดับสูงก็เลือกก่อนจนครบจำนวนที่ได้รับจัดสรร ซึ่งโดยหลักแล้วก็แทบจะได้กันทั้งรุ่นนะ ส่วนคนที่ไม่ได้ก็จะได้บรรจุเข้ารับราชการใช้ทุนเหมือนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยทั่วไป
3. สายนักศึกษาแพทย์ใช้ทุน ในกรณีนี้คือเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 ที่กำลังจะจบจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ แต่แทนที่จะใช้ทุนกับรัฐบาล ก็สมัครมาใช้ทุนกับ กองทัพแทน ซึ่งแต่ละปีก็จะมีเปิดรับสมัครทั้งกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ จำนวนหลายอัตรา เพื่อปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสังกัดของกองทัพ โดยจะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการทหารชั้นสัญญาบัตร(ต้องมีคุณสมบัติที่จะรับราชการทหารได้ด้วย เช่น บิดามารดามีสัญชาติไทยโดยการเกิด)
ทีนี้เรามาว่ากันเรื่องหลักของเราครับ ปี 2558 นี้ก็เช่นกัน ในปีนี้ วพม.ประกาศรับแล้วจำนวน 100 นาย แบ่งเป็นทุนกองทัพบก(เฉพาะเพศชาย) จำนวน 20 นาย และทุนส่วนตัว(ทุนโครงการผลิตแพทย์เพิ่ม)จำนวน 80 นาย (ชาย 40 นาย หญิง 40 นาย) ตามประกาศนี้ https://docs.google.com/file/d/0B6cEhWxz8KA7MmNfVmd5d0FhVDQ/edit
คุณสมบัติเบื้องต้น คือ
- ชายหรืิอหญิง จบม.6 สายวิทย์-คณิต หรือกำลังศึกษาชั้นม.6 สายวิทย์-คณิต
- อายุไม่เกิน 20 ปี (เกิดตั้งแต่ พ.ศ 2538)
- เพศชายสูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม. รอบอกเมื่อหายใจเข้าไม่ต่ำกว่า 78 ซม. เมื่อหายใจออกไม่ต่ำกว่า 75 ซม. มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กก.
- หญิงสูงไม่ต่ำกว่า 150 ซม. มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 40 กก.
- มีเชื่อชาติไทย สัญชาติไทยโดยการเกิด และบิดามารดามีสัญชาติไทยโดยการเกิด เว้นแต่ บิดาเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร หรือชั้นประทวน มารดาจะมิใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดก็ได้ (โดยการเกิด คือ เกิดในประเทศไทย)
- เป็นโสด ทั้งพฤตินัยและนิตินัย
- ไม่เป็นโรคที่ขัดต่อการรับราชการทหาร
สำหรับคะแนนที่จะใช้ในการคัดเลือกนั้น จะเป็นดังนี้ครับ
1. คะแนนวิชาเฉพาะของ กสพท. 30%
2. คะแนนวิชาสามัญ 7 วิชา ของ สทศ. 70% (ไม่ใช่ O-NET นะครับ) จะรับสมัครประมาณเดือน พ.ย. 2557 ต้องติดตามที่ http://www.niets.or.th/ ทั้งนี้จะมีสิทธิ์ยื่นรับตรงกับวพม.ได้จะต้องมีคะแนนในแต่ละวิชาไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 30 ด้วย
3. คะแนน O-NET 5 วิชา ส่วนนี้ไม่ได้เอามาคิดคะแนน แต่ถ้าคะแนนรวมทุกวิชาต่ำกว่าร้อยละ 60 จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้ารับการศึกษาแม้จะผ่านการสอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพแล้วก็ตาม (จะนำคะแนนในข้อ1 และ2 มารวมกันแล้วเรียกสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพก่อนคะแนน O-NET ประกาศ)
ส่วนการสมัครนั้นค่อนข้างซับซ้อนนิดนึง แอดมินก็สรุปโดยคร่าวๆให้นะครับ น้องๆต้องทำตามขั้นตอนนี้ครับ
1. สมัครสอบวิชาเฉพาะกับ กสพท. ตามรายละเอียดที่เวปไซต์นี้ http://www9.si.mahidol.ac.th/ รับสมัคร 1 - 31 ส.ค. 2557 ค่าสมัคร 700 บาท ชำระที่ ธ.ไทยพาณิชย์ 1 ส.ค. - 5 ก.ย. 2557
2. สมัครสอบ 7 วิชาสามัญกับ สทศ. (ติดตามสมัครนะครับ ตามเวลาที่บอก)
3. เข้าสอบ O-NET
// ADMIN อัศวินน้อย //
The Road To Soldier & Police เส้นทางสู่อาชีพทหาร - ตำรวจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น